191 เข้ม ขานรับรัฐบาล รวบพ่อค้ายาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า อาวุธปืน
ตามนโยบายการบริหารราชการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นข้อหาความผิดร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้าและอาวุธปืนผิดกฎหมาย
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์
เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์
รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.,
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดย พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.กรกฎ
โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ รอง
ผบก.สปพ., พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ธนากร
อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.กิตติพจน์ แก้วศรีงาม รอง ผบก.สปพ.
กองกำกับการสายตรวจ โดย
พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ท.อัษฎาวุธ
ขวัญเมือง, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม รอง ผกก.สายตรวจ ,พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ต.นฤนาท
ทิพากร ทองสอดแสง สว.งานสายตรวจ 1, พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี
สว.งานสายตรวจ 2 และ พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ
สว.งานสายตรวจ 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง
คดีที่ 1) 191 รวบหนุ่มการไฟฟ้า
ซุกไอซ์เตรียมกระจายเข้ากรุง
วันเวลาจับกุม/ตรวจยึด วันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 23.20 น.
สถานที่จับกุม/ตรวจยึด บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 22/5 และบ้านเลขที่ 22/2
หมู่ 5 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย นายพิทัก หรือทัก (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ว่า
“ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1
(ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน)
โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า
และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์
น้ำหนัก 332 กิโลกรัม, คีตามีน น้ำหนัก 18 กิโลกรัม, รถยนต์ 2 คัน, จักรยานยนต์
2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พฤติการณ์กล่าวคือ
พฤติการณ์กล่าวคือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า
ว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ ต.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี โดยไปรับยาเสพติด
แล้วนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านเลขที่ 22/2 หมู่ 5 ต.สวนแตง อ.เมือง
จ.สุพรรณบุรี
ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 20.00 น.
กลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์จำนวนสามคัน จากพื้นที่ ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
ขับมุ่งหน้าพื้นที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท แล้วกลับทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง
จ.สุพรรณบุรี โดยรถยนต์ทั้งสามคันมีลักษณะขับตามกันเป็นขบวนโดยทิ้งระยะห่าง
จึงเชื่อว่ากลุ่มเครือข่ายได้ลักลอบไปรับยาเสพติดแล้วกำลังนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังดังกล่าว
ตามพฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกต และสืบสวนมา
จึงได้สะกดรอยติดตามมา
กระทั่งเวลาประมาณ 23.20 น.ของวันเดียวกัน รถยนต์รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ
รุ่น mu-x สีขาว ติดหมายเลขทะเบียน กทม.
ขับเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้านหลังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นจับกุม
พบนายพิทัก หรือทัก (ทราบชื่อภายหลังจับกุม) กับพวกวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จับกุมตัวได้
พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลางดังกล่าวข้างต้น
ส่วนกลุ่มเครือข่ายได้อาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 191 บุกทะลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้า จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย 6 คน พร้อมด้วยของกลาง หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
537 ชิ้น, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 7,206
ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 74 ชิ้น,
คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า 54 ชิ้น, อุปกรณ์ประกอบแก๊สหัวเราะ ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ขนาด 300
กรัม 29 กระบอก, ลูกโป่ง 60 ใบ, กระป๋องอัดแก๊ส
1 ใบ 90 อัน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน
(ม.203 (1) พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560)”,"ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ
หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด (ม.๒๔๖
พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560) ”
คดีที่ 3) ผลการจับกุมอาวุธปืน จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย 5 คน พร้อมด้วยของกลาง
อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 4
กระบอก, เครื่องกระสุน
19 นัด
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,
ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,
ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง
หมู่บ้านทางสาธารณะ
โดยไม่มีเหตุอันควรและโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
โดยไม่ได้รับอนุญาต”
หากประชาชนท่านใดพบเห็น หรือมีเบาะแส
เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย
หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
ทีมข่าวอาชญากรรม...รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น