ผบช.สตม. แถลงผลจับผู้ร้ายตามหมายจับข้ามแดนจีน 2 คดีสำคัญ ค้ายาเสพติด-นักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊ หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย เสียหาย 500 ล้าน
วันที่ 2 ก.ค.68 เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พร้อมคณะ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 2 คดี ณ อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สตม. (เมืองทองธานี) ดังนี้
1.
บุกรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน
พ่วงผู้ต้องหาเสพและครอบครองยาบ้า (กก.1 บก.สส.สตม.)
2. รวบจีน overstay ภายหลังพบว่าเป็น นักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊ หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท (กก.ปอพ.บก.สส.สตม.)
1. สตม.บุกรวบผู้ต้องหาอาชญากรรมค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน
พ่วงผู้ต้องหาเสพ และครอบครองยาบ้า โดย กก.1 บก.สส.สตม.
จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 2 คน ดังนี้
- นายหลี่ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี
ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2568 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
อาชญากรรมค้ายาเสพติด (ออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน) นำตัวส่งพนักงานอัยการ
สำนักงานต่างประเทศ เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
- นายหยู (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 418 เม็ด และไอซ์ 1.05 กรัม)
พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด โดยกล่าวหาว่า
เสพและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) โดยผิดกฎหมาย
นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สถานที่จับกุม
บ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก สำนักงานอัยการสูงสุด
ได้มีหนังสือแจ้งมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประจำประเทศไทย ร้องขอให้ทางการราชอาณาจักรไทยให้ส่งตัวนายหลี่
บุคคลสัญชาติจีน
เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
ในความผิดฐาน “อาชญากรรมค้ายาเสพติด”
อันเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมาพนักงานอัยการ
สำนักงานต่างประเทศ ได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอออกหมายจับนายหลี่
และได้ส่งหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2568 ลงวันที่ 16
มิ.ย.2568มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการสืบสวนจับกุม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามจับกุมนายหลี่
ตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าว พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม.
จึงได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามจับกุม จากการสืบสวนของ กก.1
บก.สส.สตม. พบว่า นายหลี่
ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71
นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบนายหลี่
พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และพบนายหยู ภายในห้องนอนชั้น 2
พร้อมของกลางยาบ้า 418 เม็ด ไอซ์ 1.05 กรัม และอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด
ซึ่งนายหยูทิ้งลงไว้ใต้เตียงนอนเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น
จึงได้ทำการจับกุม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบแก๊สไนตรัสออกไซด์หรือแก๊สหัวเราะ
บรรจุหลอดเล็ก 152 หลอด หลอดใหญ่ 6 หลอด จุกสีขาวสำหรับเสียบหลอดแก๊ส 92 อัน
ลูกโป่งถุงใหญ่ 4 ถุง ลูกโป่งถุงเล็ก 2 ถุง
ซึ่งนายหลี่อ้างว่าได้ซื้อมาจากย่านอาร์ซีเอไว้เพื่อสูดดมเอง จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบและสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดต่อไป
2. สตม.รวบจีน Overstay ภายหลังพบว่าเป็นนักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท
สืบเนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีคำสั่งให้สืบสวนปราบปรามและระดมจับกุมคนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
(Overstay) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.
ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบ้านพักหลังหนึ่งอยู่ภายในซอยศิริถาวร ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
มีบุคคลสัญชาติจีน พักอาศัย อยู่หลายคน
น่าเชื่อว่าจะใช้บ้านหลังดังกล่าวกระทำความผิด
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลอาญาพระโขนงเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ
นางหง (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สัญชาติจีน
ไม่มีหนังสือเดินทางแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จึงได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินผ่านระบบสารสนเทศ ตม. พบว่า
นางหงเดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาต สิ้นสุด รวมจำนวน 337 วัน จึงจับกุมในข้อหา
“เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน
กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนต่างด้าวรายอื่นอีก 5 คน ไม่พบการกระทำผิด
ทั้งนี้ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.
ได้ประสานงานไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย รับแจ้งว่า
นางหง ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ ได้ร่วมกับสมาชิกรายอื่นๆ ก่อตั้งบริษัท Zhongguo Finance เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มร่วมลงทุน
โดยสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นบริษัทด้านการลงทุนในธุรกิจระดับโลก
มีการต่อยอดสร้างธุรกิจและโครงการต่างๆ จำนวนมาก
อีกทั้งบริษัทยังดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องการกับใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต
การพัฒนาแอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ และเป็นสื่อกลางในการจัดงานสังสรรค์ระดับสูง
ซึ่งโมเดลธุรกิจดังกล่าวสร้างแรงจูงใจให้เกิดผู้ร่วมลงทุน
มีการชักชวนสมาชิกและมีผู้สนใจทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก
โดยผู้สนใจจะต้องจ่ายเงินร่วมลงทุนเป็นเงิน ตั้งแต่ 7,000-100,000 หยวน เพื่อให้มีสถานะเป็นสมาชิก
มีการแบ่งงาน, มอบหมายหน้าที่ในการบริหารจัดการ, การฝึกอบรม, มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกรายใหม่ๆ
และดูแลกิจการอื่นๆ ของบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างเรื่องหลอกลวงทั้งหมด
โดยจากตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีเงินทุนหมุนเวียน มูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน หรือกว่า 500 ล้านบาท
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.
มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ
รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ
และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด
กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่
หรือที่ www.immigration.go.th
ทีมข่าวอาชญากรรม...รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น