“บ้านใหญ่ไม่แบ่งพรรค” อนุชา สะสมทรัพย์ กับ NCDs ที่ไม่ได้ยึดติดสีเสื้อ
ในสมรภูมิทางการเมืองไทยที่ร้อนระอุเต็มไปด้วยการแยกสี แบ่งฝ่าย และแข่งกันสร้าง “เครดิต” ในนามพรรคและบุคคล “นายอนุชา สะสมทรัพย์ รมช.สาธารณสุข กลับเดินเกมคนละมุมกับนักการเมืองรุ่นใหม่ผู้เอะอะก็ชูมือถือ ไลฟ์สด ไล่เบี้ย ไล่บี้คู่แข่ง
แต่เลือกจะก้มหน้าทำงานเงียบ ๆ
รับลูกจากรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แม้จะอยู่กันคนละพรรค คนละป้าย
คนละร่มเงาทางการเมือง
หลายคนอาจสงสัยว่า การที่อนุชาฯ ขานรับนโยบาย
“ลดโรค NCDs” ของรัฐมนตรีจากพรรคอื่นนั้น เป็นการ “เล่นบทอัศวินม้าขาว”
เพื่อหาเสียงล่วงหน้า หรือซ่อนนัยยะทางการเมืองบางอย่างหรือไม่
คำตอบ คือ ถ้าจะซ่อนอะไร ก็คงเป็น
“ความจริงใจที่ไม่ต้องป่าวประกาศ” มากกว่า เพราะสิ่งที่อนุชาทำ ไม่ใช่แค่ “รับนโยบาย”
แต่มันคือ “รับผิดชอบ”
ไม่ใช่แค่ยืมมือรัฐมาทำโปรเจกต์
แต่คือยื่นมือไปแตะหัวใจของประชาชนในพื้นที่
ไม่ใช่แค่เดินตามนโยบาย
แต่คือเดินนำเข้าไปในซอกซอยของบ้านที่ไม่มีแม้แต่รั้วโรงพยาบาลให้เดินเข้า
ถ้าใครเคยรู้จักตระกูล “สะสมทรัพย์”
ก็คงรู้ดีว่าบ้านใหญ่นี้ไม่เคยแบ่งพรรค แยกประชาชน
พวกเขาสะสมชื่อเสียง สะสมความไว้วางใจ
สะสมสายใยกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จน “สะสมทรัพย์” ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่คือ
“ทุนทางสังคม” ที่แลกคืนเป็นศรัทธาได้เสมอ
ในภาวะที่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
กลายเป็น “โรคเรื้อรัฐ” เพราะรัฐนั้นมักจะเรื้อรังเรื่องการบริหาร
และการเข้าถึงบริการสุขภาพกลายเป็นของหรูหราเหมือนแอร์แบรนด์ดังในบ้านที่ไม่มีแม้แต่หลังคา
โครงการ NCDs ที่เน้นการคัดกรอง ป้องกัน
และปรับพฤติกรรมจึงไม่ได้เป็นแค่ “โครงการสุขภาพ”
แต่มันคือ “โครงการสร้างโอกาส” ในพื้นที่ที่คนเจ็บไม่มีแม้แต่บัตรคิวไม่ต้องป่วยอีกต่อไป
แต่สำหรับอนุชา มันไม่ได้จบแค่ตัวเลขของโรคเบาหวาน ความดัน หรือภาวะอ้วน
มันคือการชวนให้คนในพื้นที่ “กลับมาหายใจแบบไม่ต้องรอวันลาออกจากชีวิต”
จึงไม่น่าแปลกใจที่เพียงไม่กี่เดือน
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงได้พุ่งทะยานเป็นแสน
เพราะอนุชารู้ว่าแม้ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี
แต่บ้านใหญ่ก็ทำงานใหญ่ได้ ถ้าใจมันใหญ่มากพอ
ในขณะที่นักการเมืองบางคนยังติดกับอยู่ในวังวน
“ใครคิด ใครทำ ใครได้เครดิต” บ้านใหญ่สะสมทรัพย์กลับเชื่อว่าถ้ามันดีต่อประชาชน
ต่อให้มาจากพรรคตรงข้าม ต่อให้ไม่ใช่ลูกในครรภ์ของตระกูล แต่ถ้ามันทำให้
“ลูกในพื้นที่” มีชีวิตที่ดีขึ้น เขาก็พร้อมเป็นคนอุ้ม เพราะบางที “ผลงานที่ดี”
ก็ไม่ได้ขึ้นกับ “พรรคที่ถูก”
แต่อยู่ที่
“คนที่ถูกเลือกแล้วไม่ลืมว่าทำไมถึงได้มา”
ในวันที่ประเทศนี้ยังเต็มไปด้วยโรคเรื้อรังทั้งทางกายและทางการเมือง
การมีนักการเมืองที่ยอม “ข้ามพรรค แต่ไม่ข้ามประชาชน” คือยารักษาที่ดีที่สุด
เพราะบางครั้ง การไม่แบ่งพรรค ก็คือการไม่แบ่งคน และการยอมทำตามนโยบายที่ดี
แม้มาจากปากคนละสี ก็สะท้อน “หัวใจที่เป็นสีเดียวกับประชาชน”
ซึ่งไม่ใช่สีแดง ไม่ใช่สีฟ้า ไม่ใช่สีส้ม
แต่คือ “สีของคนที่หายดีเพราะได้รับโอกาส”
สะสมทรัพย์ไว้เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่ออำนาจ
และนั่นคือคำตอบที่ไม่ต้องเขียนบนป้ายหาเสียง
แต่เขียนไว้ในหัวใจของแสนคนที่ได้รับการดูแลแล้ว
โดย ดร.ณพรรษธ์สรฌ์ เสมสันต์ นักวิชาการอิสระ
#บ้านใหญ่ไม่แบ่งพรรค #อนุชาสะสมทรัพย์ #รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข #กระทรวงสาธารณสุข #การเมืองแบบไม่แบ่งสี #ลดNCDsเพิ่มโอกาสชีวิต #NCDs
ไม่มีความคิดเห็น