Header Ads

Breaking News

ผบช.น.-ผบก.น.1 แถลงผลทลายโกดังแก็งลักรถ จยย. รายใหญ่ พุทธมณฑลสาย 2


วันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. (ช่วยราชการ บช.น. กำกับดูแลการสืบสวนคดีสำคัญภายในพื้นที่นครบาล), พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.น.1 , พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน เข้าจับกุมตัว นายเพชร  (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี  ในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX 160 สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 ขบ 91xx กรุงเทพฯ ได้ที่ด้านข้างโกดัง หน้าโลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ ถ.พุทธมณฑลสาย2 ซอย24 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.68 เวลาประมาณ 19.50 น. มีนายจิรายุฯ ผู้เสียหาย มาแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.68 ได้จอดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX 160 สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 ขบ 91XX กรุงเทพฯ ไว้ที่บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน อาร์ซีเอ บล็อก D ถ.จตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ  ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค.68 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้กลับมาที่จอดรถ ปรากฏว่ารถของตนได้หายไป จึงแน่ใจว่ารถของตนได้ถูกคนร้ายก่อเหตุลักขโมยไปแน่นอน จากการสอบถามรายละเอียดนายจิรายุฯ ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า รถของตนได้ติดอุปกรณ์สัญญาณติดตามรถ (GPS) เอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงให้นายจิรายุฯเปิดโทรศัพท์เชื่อมต่อสัญญาณ GPS พบว่าสัญญาณ GPS ที่ติดอยู่กับตัวรถ ได้ปรากฏตำแหน่งสัญญาณอยู่ที่บริเวณด้านข้างหน้าโกดัง ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ ถ.พุทธมณฑลสาย2 ซอย 24 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา  กรุงเทพฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และนายจิรายุฯ ผู้เสียหาย จึงได้ออกติดตามไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงได้ตรวจพบตำแหน่งสัญญาณ GPS ที่ติดอยู่กับตัวรถ อยู่ภายในโกดังที่สร้างมุงหลังคาและกั้นด้วยแผ่นสังกะสี ตั้งอยู่ด้านข้างบริเวณห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 24 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับนายเพชรฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา นั่งอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถามนายเพชรฯ ซึ่งนายเพชรฯ ให้การว่า ตนเป็นคนมีหน้าที่เฝ้าและดูแลสถานที่ดังกล่าว และภายในโกดังที่สร้างมุงและกั้นด้วยแผ่นสังกะสี ตั้งอยู่ด้านข้างบริเวณห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ นั้นเป็นที่เก็บรถจักรยานยนต์ไว้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุลักขโมยมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายเพชรฯ แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยขอให้นายเพชรฯ เปิดประตูโกดัง โดยที่นายเพชรฯเป็นผู้ได้นำกุญแจไขเปิดประตูโกดัง และเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายจิรายุฯ(ผู้เสียหาย)ตรวจดูรถที่จอดอยู่ภายใน

ผลจากการตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX 160 สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 ขบ 91xx กรุงเทพฯ ของนายจิรายุฯ ที่ได้แจ้งหายไว้จอดอยู่ภายในโกดัง ดังกล่าวจริง และนายจิรายุฯ (ผู้เสียหาย) ได้ทำการชี้ยืนยันและตรวจสอบรายละเอียดพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของตนที่ถูกก่อเหตุลักขโมยมาจริง  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์อื่นๆ อีกจำนวน 10 คัน (รายละเอียดตามบันทึกบัญชีตรวจยึด) จอดอยู่ภายในโกดังที่กล่าวด้วย ซึ่งพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และเป็นรถที่มีการใช้งานมาแล้ว ไม่ใช่รถใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์และเอกสารรถที่จอดอยู่ทั้งหมด ซึ่งนายเพชรฯ แสดงอาการมีพิรุธและไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถทั้งหมดที่จอดอยู่ภายในโกดังได้  และได้ให้การเกี่ยวกับรถจักยานยนต์คันของผู้เสียหายว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (21 ธ.ค. 68) ได้มีผู้ชายอายุประมาณ 36-37 ปี ขับรถกระบะตู้ทึบ จำยี่ห้อ สี และทะเบียนไม่ได้ บรรทุกรถจักยานยนต์คันของผู้เสียหายมาส่งให้ตนและตนเก็บไว้ในโกดังดังกล่าว ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายเข้ามาประมาณ 30 นาทีที่ผ่านมา  และจากการสอบถามนายเพชรฯ ให้การว่าเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ฯ และโกดัง ดังกล่าวเป็นของนายแชมป์ ซึ่งตนเป็นลูกน้องหรือลูกจ้าง มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลสถานที่ดังกล่าว  ด้วยกรณีดังกล่าวจึงมีหลักฐานตามสมควรว่า นายเพชร น่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นซึ่งเป็นเหตุที่จะออกหมายจับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.66(2) แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา ม.78(3) ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการยึดรถจักรยานยนต์ของกลางดังกล่าว และจับกุมผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ ณ ที่จับกุม ว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำของกลางและนำตัวผู้ถูกจับมาทำบันทึกจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวอาชญากรรม...รายงาน








ไม่มีความคิดเห็น