Header Ads

Breaking News

วิลาศ จี้ มท.1 - ปลัดมหาดไทย เร่งเคลียร์ปมยื้อสรรหาผู้ว่า กปภ.

วิลาศ ไล่บี้ มท.1 และปลัดมหาดไทย เร่งแสดงความโปร่งใสปมยื้อสรรหาผู้ว่ากปภ. นานนับครึ่งปี จับตา 18 ส.ค. เคาะ-ไม่เคาะหรือยื้อต่อ หวังเขี่ยคู่แข่งพ้นทางคนในคาถา ย้ำชัด!! จองคุกรอคนทำผิดไว้แล้ว ด้าน พีรกันต์ ยันเคลียร์ตนเองโปร่งใสหมดแล้ว พร้อมทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร กรุงเทพมหานคร อดีตประธานคณะกรรมการ ปปช. สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการติดตามผลการสรรหา ผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ที่เปิดสรรหามาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 และคณะกรรมการสรรหาที่มีพลโท พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ได้เสนอผู้ที่ได้คะแนนจากการแสดงวิสัยทัศน์เรียบร้อยแล้ว แต่กลับพบว่านายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการ กปภ. กลับไม่นำเข้าสู่พิจารณาในการประชุมบอร์ด กปภ. ครั้งแล้วครั้งเล่า นับจนบัดนี้เกือบครึ่งปีแล้ว

สำหรับกระบวนการสรรหาผู้ว่า กปภ. ระบุว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ต่อมาขยายเวลาถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากมีผู้สมัครรายเดียว โดยพบว่าหากเทียบกับหน่วยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การประปานครหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย การยางแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ และสถาบันการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเปิดการสรรหาขึ้นในภายหลัง กปภ. กลับได้ตัวผู้นำองค์กรเกือบครบทุกหน่วยแล้ว แตกต่างจาก กปภ. ที่ยังยื้อนานเกือบครึ่งปี จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่าเพราะเหตุใด ทั้ง ๆ ที่ได้คะแนนผู้ผ่านการสรรหาเรียบร้อยแล้วแต่กลับไม่นำเข้าพิจารณาในบอร์ด กปภ. ตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา

“จึงชวนให้คิดได้ตามที่หลายคนสงสัยว่ามีการล็อคตัวผู้สรรหาบางคนไว้แล้ว ซึ่งเป็นคนที่คณะกรรมการบอร์ดสั่งได้ โดยมุมมองส่วนตัวแล้วเห็นว่าภายใน กปภ. มีหลายโครงการตรวจสอบพบว่ามีความไม่โปร่งใส เกิดการทุจริตขึ้น ดังนั้นจึงต้องการให้ได้คนทำหน้าที่ผู้ว่าการ กปภ. คนใหม่เร่งเข้ามาสางปมทุจริตเหล่านี้โดยเร็ว เนื่องจากมีการฟ้องร้องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ไว้หลายเรื่อง แม้ผู้สมัครบางรายเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความไม่เหมาะสมหลายประการก็ตาม ดังนั้นหากบอร์ดยังยื้อต่อไปตนเห็นว่าจะเกิดผลเสียมากกว่า”

ประการสำคัญหากจะพัฒนา กปภ. ด้วยการลดทุจริตคอรัปชั่นให้ได้ จะต้องได้ตัวผู้ว่าการ กปภ. ที่มีฝีมือเข้าไปแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ต้องได้ตัวในเร็ววันนี้ มากกว่าจะยื้อให้เสียเวลาโดยสูญเปล่า มุมมองส่วนตัวแล้วยังเห็นว่าเป็นเรื่องการเมือง เนื่องจากหน่วยงาน กปภ. มีเรื่องทุจริตหลายเรื่อง และยังมีเอกชนบางรายใช้เส้นสายผ่านทางฝ่ายการเมืองฝังรากลึกมานาน แม้ว่า กปภ. จะอยู่ในการกำกับดูแลของนายทรงศักดิ์ ทองศรี ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ในบทบาทรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่กลับพบว่ามีบทบาทใน กปภ. น้อยมาก โดยการบริหารจัดการ กปภ. จะขึ้นตรงกับนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นหลัก

ดังนั้นจึงเป็นห่วงว่าหากกรรมการบอร์ด กปภ. ปลัดกระทรวงมหาดไทย และมท.1 ยังยื้อการสรรหาเพื่อจะเอาคนของตนเองขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าการ กปภ. ให้ได้นั้น หากเป็นคนในขึ้นมาทำหน้าที่จะไปอยู่ใต้อาณัติกระบวนการโกงมโหฬารของ กปภ. อีก ก็จะแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นใน กปภ. ไม่ได้ แต่เท่าที่ทราบมาว่าคะแนนที่ชนะจะเป็นผู้สมัครสรรหาจากคนนอก กปภ. ซึ่งผ่านคณะกรรมการสรรหาไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 น่าจะมีประกาศผ่านสื่อให้ทราบด้วยเพื่อความโปร่งใสจริง อีกทั้งเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดจะมีการนำเสนอเอกสารแนบไปด้วย

ประการสำคัญวันที่ 18 สิงหาคมนี้จะมีการประชุมบอร์ด กปภ. ซึ่งมีวาระการพิจารณาผลการสรรหาผู้ว่าการ กปภ. ระบุเอาไว้ด้วยแล้วนั้นมีลุ้นว่า มท.1 และประธานบอร์ด กปภ. จะเอา-ไม่เอาผลการสรรหาครั้งนี้ แต่หากวันที่ 18 ส.ค. นี้ เรื่องยังไม่ได้นำเข้าพิจารณาบอร์ด กปภ. อีก บอกไว้ที่นี้เลยว่าเพราะเห็นว่ามีความไม่ชอบในหลายประการ ดังนั้นหากบอร์ด กปภ. ยังคิดจะยื้อกรณีเห็นชอบอีกจะเป็นการเสียโอกาสการพัฒนาของ กปภ. โดยเปล่าประโยชน์ เป็นที่น่ารังเกียจมาก ทั้ง ๆ ที่เปิดสรรหามาก่อนหน่วยอื่น ๆ

“ไม่มีที่ไหนหรอกที่บอร์ดจะยื้อนานแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ซับซ้อน พฤติกรรมส่อเล่นพรรคพวก ไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ หากยื้อแล้วชี้แจงเหตุผลไม่สมควร มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตนยินดีเข้าไปเป็นพยาน เพราะเห็นว่าการกระทำแบบนี้ขาดความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ดังนั้นจึงรับประกันได้เลยว่าเมื่อเป็นรองผู้ว่าฯ ไม่ติดคุก แต่ถ้าขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าการจะมีโอกาสติดคุกอย่างแน่นอน จองคุณรอไว้แล้วจึงไม่ควรจะมั่วขึ้นมา ชวนให้คนทั่วไปมองว่าเจตนาคือต้องการให้ผู้สรรหาบางคนเหลืออายุงานน้อยลง จะได้อ้างว่ามีระยะเวลาสั้น เพื่อไม่ผ่านการสรรหา เพื่อเปิดทางให้คนของตนเองที่ล็อคตัวไว้แล้ว ดังนั้นจึงยังเชื่อว่า มท.1 สั่งการมาที่ปลัดมหาดไทย และยังพบอีกว่ามีการล็อคตัวผู้สรรหาบางคนไว้เอื้อเอกชนบางบริษัท เพราะพบว่าในการจัดซื้อจัดจ้างยังมีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่บางกลุ่มสามารถเข้าไปร่วมประชุมชี้แจงเรื่องประปากับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในห้องได้ด้วย เพราะตามการปฏิบัติกันมาจะเป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเข้าประชุมเท่านั้น ดังนั้นการที่ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่ายุครัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศแล้วจะไม่มีการทุจริตโกงกินเกิดขึ้น ตนเห็นว่าน่าจะหนักและรุนแรงยิ่งกว่าด้วยซ้ำไป ทั้ง ๆ ที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฝากความหวังไว้กับมหาดไทย แต่ในทางปฏิบัติจากการที่ตรวจสอบพบมีการทุจริตเกิดขึ้นให้เห็นมากมาย ดังนั้นจึงต้องเร่งสางปมกรณีมีการยื้อสรรหาครั้งนี้ให้ได้ผลชัดเจนโดยเร็ว โปร่งใสจริง เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบโครงการอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่เมื่อมีผู้ว่าการ กปภ. ตัวจริงเข้ามารับหน้าที่”

ด้าน นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ และผู้อำนวยการฝ่ายขนส่งทางอากาศของสายการบินไทยแอร์เอเชีย หนึ่งในผู้สมัครสรรหาผู้ว่า กปภ. กล่าวว่า ยืนยันว่า ณ วันนี้คดีความที่แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ เคลียร์ความถูกต้องชัดเจนแล้ว แต่ก็มีคนพยายามจะนำมาโยงในการพิจารณาครั้งนี้ซึ่งตนไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด มั่นใจว่าคณะกรรมการสรรหาพิจารณาตามเกณฑ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบอร์ด กปภ. ว่าจะเคาะความชัดเจนเรื่องนี้เมื่อไหร่

“ทราบว่ารองผู้ว่าการคนใน หนึ่งใน 3 ผู้สมัครสรรหามีความพยายามสมัครมาแล้วหลายครั้ง ส่วนปัจจุบันตนมาจากเลขาธิการกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฏร เป็นกรรมการในไดเรคเตอร์พูล ดังนั้นหากพิจารณาจากโปรฟายน์ผลงานมั่นใจว่าจะดีกว่าทั้ง 2 รายอีกด้วย โดยเฉพาะผลงานด้านรายได้องค์กรรวมรายปีที่แอร์เอเชียมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังผ่านประสบการณ์บริหารที่หลากหลายกว่า ทั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจ มั่นใจทำหน้าที่ไม่ด้อยกว่ากัน ดังนั้นจึงเข้าใจว่าทั้ง 3 รายมีโอกาสทั้งหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจใน กปภ. และกระทรวงมหาดไทยว่าจะให้โอกาสตนเข้าทำหน้าที่หรือไม่ ส่วนกรณีเรื่องยื้อสรรหาหายไปนานไม่ทราบว่าสาเหตุเพราะอะไรกันแน่ ทั้ง ๆ ที่เรื่องไม่สลับซับซ้อนเลย”

ไม่มีความคิดเห็น