“บิ๊กแจง” ผบช.ตำรวจไซเบอร์ ทลายรังแก๊งค์ Call Center & Admin page ปิดหอพักตั้งออฟฟิต หลอกลงทุน-พนันออนไลน์, เงินหมุนกว่า200ล้านบาท
“บิ๊กแจง” ผบช.ตำรวจไซเบอร์ ทลายรังแก๊งค์ Call Center & Admin page ปิดหอพักตั้งออฟฟิต หลอกลงทุน-พนันออนไลน์, เงินหมุนกว่า200ล้านบาท
วันที่15 ก.พ.65 เวลา 17.30 น. พล.ต.ท.กรไชย
คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี,
สภ.ศรีมหาโพธิ พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว
“ตำรวจไซเบอร์ ทลายรัง แก๊งค์ Call Center & Admin page ปิดหอพัก หลอกชักชวนลงทุนออนไลน์, พนันออน์ไลน์
ก่อนเชิดเงินและบล็อคการติดต่อเหยื่อ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท พบเงินสดของกลางกว่า 1.3 ล้านบาท จับผู้ร่วมขบวนการชาวไทย
70 คน จับได้ ณ หอพักฯ ในตำบลท่าตูม ศรีมหาโพธิ์ เร่งจับหัวหน้าแก็งค์ ชง ปปง.ยึดทรัพย์
สื่บเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565
ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ว่าได้ถูกคนร้ายหลอกให้หลงเชื่อเพื่อให้นำเงินไปลงทุนกับคนร้าย
โดยคนร้ายอ้างว่าสามารถนำเงินของผู้เสียหายไปลงทุนจนได้กำไรสูง
ซึ่งต่อมาคนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายว่าได้รับกำไรจากการลงทุนดังกล่าวแล้ว
แต่ผู้เสียหายต้องโอนเงินเป็นค่าถอน ค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่ารหัสผ่านในการถอนเงิน
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้แก่กลุ่มคนร้ายหลายครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 12,139,000.25 บาท ต่อมาภายหลัง เมื่อผู้เสียหายทราบว่าตนถูกหลอกลวง
จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.กรไชยฯ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์
ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2
เป็นผู้ควบคุมการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ โดยได้ออกสืบสวนคดีนี้
พบว่ากลุ่มคนร้ายได้เปิดเพจหลอกลงทุนและนำเงินจากการลงทุนมาเล่นพนันออนไลน์
ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนมาประมาณกว่า 1 เดือน หาตัวคนร้ายกับกลุ่มที่ร่วมขบวนการ
ทราบว่า ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่หอพักฯ ในตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ
จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้วางแผนเข้าตรวจค้นจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขออนุญาตศาลจังหวัดปราจีนบุรี
เพื่อเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว
ผลการตรวจค้นพบ สถานที่ทำงาน ใช้ตึกอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น ดังกล่าว
โดยแบ่งเป็นชั้นๆละ 18 ห้อง รวม 36
ห้อง ชั้นบนเป็นที่พักพนักงาน ชั้นล่างเป็นที่ทำงาน ไม่รับบุคคลนอก และไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าพักอาศัย
แต่ใช้เป็นที่ทำงาน Call Center & Admin page ในการชักจูงและหลอกให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุนการพนันผ่านทางช่องทางเฟสบุ๊ค
และทางไลน์ ซึ่งการทำงานของกลุ่มคนร้าย มีการแบ่งการทำงานแต่ละห้อง
พบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือในการกระทำความผิดและพักอาศัยอยู่ตึกดังกล่าวทั้งหมด
จากการตรวจค้นพบผู้กระทำความผิด 66 คน, เงินสด 1,300,000 บาท, ทองคำ 20 บาท, รถยนต์ 3 คัน, คอมพิวเตอร์ 87 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ
23 เครื่อง, อาวุธปืน ขนาด .45 ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก,
เครื่องกระสุนปืน .45 จำนวน 25 นัด, บัญชีธนาคาร 50 เล่ม
ซึ่งพบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท
จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น
ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน จ่ายเงินเดือนรวมทั้งหมดกว่า 700,000 บาท เฉลี่ยคนละประมาณหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน
มีแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้อีกต่างหาก (บางคนได้ประมาณ 1 แสนบาท) ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1
ปี โดยอาศัยหอพักฯ ดังกล่าวเพื่อทำงาน
รวมถึงมีอาหารไว้ให้พนักงานที่ร่วมกระบวนการโดย การชักจูงให้โอนมาลงทุน
เมื่อได้รับเงินก็จะหลอกหลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพิ่มเรื่อยๆ และเมื่อผู้เสียหายเริ่มรู้
ก็ทำการบล็อคหนี
ซึ่งในเบื้องต้น จะควบคุมผู้ต้องหา ทั้ง 66 ราย ส่ง
พงส.สภ.ศรีมหาโพธิ จว.ปราจีนบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น
อุบายประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตาม พรบ.การพนัน” และดำเนินคดีกับผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมดำเนินการขยายผลในความผิดฐานฟอกเงิน และการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
ต่อไป
ข้อหาความผิดที่เกี่ยวข้อง
1.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา
มาตรา 343 โทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ
ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ร่วมกันจัดให้มีการเล่น
หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณา
หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตาม พรบ.การพนัน ม.12 จําคุกตั้งแต่ 3
เดือน-3 ปี ปรับ 500 - 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ม.18 จำคุก ไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
5. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี
และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000
บาท
ทั้งนี้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน ปปง.รับเรื่องยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งผู้ต้องหาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
และดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป
สมชาย/อ๊อด..รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น