ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจช่วยประชาชนถึงบ้าน
วันที่ 12 ต.ค. 68 พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ควบคุมงานแถลงข่าวและประชาสัมพันธ์ข่าว ตำรวจภูธรภาค1 เปิดเผยว่า ได้รับข่าวสาร เพื่อเผยแพร่ข่าวสารให้กับประชาชนและข้าราชการตำรวจ และสังกัดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อให้ได้รับทราบเป็นความรู้ข้อมูลในเรื่องต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อข้าราชการตำรวจและประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1
งานประชาสัมพันธ์ ฝอ.5 บก.อก.ภ.1 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ในเพจ Facebook ของ ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 4 เรื่อง คือ
1.) ตำรวจพายเรือลุยน้ำท่วม รับแจ้งความถึงหน้าบ้าน
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือน 200 หลัง ในชุมชนเกาะพระ ตำบลบ้านโพธิ์
อำเภอบางปะอิน ยังเผชิญปัญหาน้ำท่วมสูง
แม้เขื่อนเจ้าพระยาจะลดอัตราระบายน้ำท้ายเขื่อนเหลือ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
แต่ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเวลาออกไปทำธุระนอกบ้าน แถมตอนนี้ยังเดือดร้อนสมุดบัญชีหาย
จะต้องไปแจ้งความก็ไปไม่ได้
แต่ไม่ต้องกังวล สภ.บางปะอิน
มีโรงพักเคลื่อนที่ทางน้ำ โดยพันตำรวจเอก อดิเรก โปธิปัน ผู้กำกับการ สภ.บางปะอิน
นำพนักงานสอบสวน พายเรือลุยน้ำท่วมรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันถึงบ้าน
โดยประสานผู้ใหญ่บ้านรวบรายชื่อผู้เดือดร้อนที่ต้องการแจ้งความมา
นางอนันต์ บอกว่า บ้านถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 เดือน สมุดบัญชีธนาคารสูญหาย
ไม่สะดวกเดินทางไปแจ้งความ ทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้
พอรู้มีตำรวจลงพื้นที่รับแจ้งความ รีบแจ้งความประสงค์
เพราะเกรงจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม 9,000 บาท
ไม่ใช่แค่รับแจ้งความ
แต่ความเดือดร้อนอย่างอื่น เช่น มีปัญหากับเพื่อนบ้าน
หลังวัวควายมากินพืชผักที่ปลูกไว้ ตำรวจก็ลงพื้นที่ประสานเจรจาให้
ถึงแม้การทำงานในสภาพน้ำท่วมจะลำบาก แต่ตำรวจทุกปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจ
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ทอดทิ้งแม้ในยามวิกฤตน้ำท่วม
#ขอบคุณทีมข่าวช่อง7HD
2.) ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอผักไห่
วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
รองจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.ดุษฎี หิรัญรัตน์
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรผักไห่
ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลกุฎี
อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พร้อมทั้งลงเรือตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม
เพื่อให้กำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน
ในการนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
รองจเรตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตอนหนึ่งว่า “ตำรวจทุกนายมีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้
จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ และมอบสิ่งของจำเป็น
เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะอยู่เคียงข้างประชาชน
และพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์”
นอกจากนี้
ยังได้มอบกรวยจราจรให้แก่สถานีตำรวจภูธรผักไห่
เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป
3.) สภ.นครหลวง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
#ตรวจเยี่ยม #มอบสิ่งของ #ผู้ประสบอุทกภัย
“ไม่ใช่แค่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
แต่ยังเป็นผู้พิทักษ์น้ำใจในยามทุกข์ภัย” ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน
ภายใต้การอำนวยการ ของ พ.ต.อ.ชาญภาค สุวรรณชื่น
ผกก.สภ.ฯ ได้มอบหมายชุดสายตรวจออกตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ม.4 ต.คลองสะแก
มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และให้กำลังใจประชาชน
4.) 5 สาเหตุไฟไหม้ในบ้าน ที่ป้องกันได้ก่อนภัยมาเยือน
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องจากในปัจจุบันยังคงเกิดเหตุอัคคีภัยภายในบ้านพักอาศัยอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำประชาชนให้ตระหนักถึง
5
สาเหตุหลักของการเกิดอัคคีภัยในครัวเรือน
เพื่อให้สามารถตรวจสอบและป้องกันได้ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด ดังนี้
1. ระบบไฟฟ้าเก่าเสื่อมสภาพ สายไฟที่ใช้งานมานานอาจชำรุด ฉนวนหุ้มกรอบ
แตก หรือหลุดออก ทำให้เกิดการรั่วของกระแสไฟและไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย
2. ปลั๊กพ่วงไม่ได้มาตรฐาน-ปลั๊กพ่วงราคาถูก ไม่มีเครื่องหมาย มอก.
ไม่มีสวิตช์ตัดไฟ หรือใช้งานเกินกำลังไฟที่กำหนด
อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมจนไฟลุกไหม้
3. เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด เช่น สายไฟหลุด รอยไหม้บริเวณปลั๊ก
หรือมีเสียงและกลิ่นผิดปกติ ควรซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
4. แก๊สหุงต้มรั่วซึม มักเกิดจากสายยางแก๊สแตกร้าว หัวปรับแก๊สหลวม
หรือวาล์วแก๊สไม่ปิดสนิท เมื่อเกิดประกายไฟอาจทำให้เกิดการระเบิดได้
5. จุดไฟโดยไม่ระวัง เช่น การจุดธูป เทียน
หรือบุหรี่แล้วทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล ซึ่งเป็นสาเหตุไฟไหม้ในบ้านที่พบได้บ่อย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้พี่น้องประชาชน
หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์แก๊สเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว
และหากได้กลิ่นแก๊สภายในบ้าน ห้ามเปิดสวิตช์ไฟหรือจุดไฟโดยเด็ดขาด
ให้รีบปิดวาล์วแก๊สและเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศทันที
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเหตุเพลิงไหม้
สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วนดับเพลิง 199 หรือ สายด่วน 191
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.facebook.com/share/p/19xHJBg8HV/
#ไฟไหม้
#สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
#Royalthaipolice
ผบก.ภัคพงศ์ A11 ภ.1 พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1…สนับสนุนข้อมูลรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น