ตำรวจภูธร ภาค1 แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรม 15 วัน ประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน วอนช่วยแจ้งเบาะแส เก็บเป็นความลับ
ตำรวจภูธร ภาค1 แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรม 15 วัน ประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน วอนช่วยแจ้งเบาะแส เก็บเป็นความลับ
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 เวลา 10.00 น.
ตำรวจภูธรภาค 1 ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1 นำโดย
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.พนัญชัย
ชื่นใจธรรม และ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.ภ.1
ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด
ปฏิบัติตามการสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
โดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทความผิดในห้วงระหว่างวันที่ 22 ก.ค.65
ถึง วันที่ 5 ส.ค.65 เน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด
สถานบริการ การสืบสวนบุคคลตามหมายจับ การพนัน และยาเสพติด
ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ให้ความสำคัญกับ “หมู่บ้าน–ชุมชน”
ตั้งเป้าลดจำนวนนักเสพหน้าใหม่ โดยนำไปบำบัดฟื้นฟู ทำลายเครือข่ายการค้า
ตัดท่อน้ำเลี้ยงขบวนการ พร้อมสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
มุ่งหวังให้ยาเสพติดหายไปจากสังคมไทย โดยได้เปิดยุทธการปราบปรามไพรี ประกาศสงครามกับยาเสพติดตำรวจภูธร
ภาค 1 และมีพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมไปเมื่อ วันที่ 22 ก.ค.65
ที่ผ่านมานั้น ผลการปฏิบัติในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมดังกล่าว
สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำแนกเป็นความผิดประเภทต่างๆ
- คดีอาวุธปืน ผลจับกุม 571 ราย
ผู้ต้องหา 568 คน รวมอาวุธปืน 518 กระบอก แยกเป็นปืนมีทะเบียน 315 กระบอก
ปืนไม่มีทะเบียน 203 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 711 นัด
-คดีการพนัน จับกุม 737 ราย ผู้ต้องหา
922 คน
-คดียาเสพติด จับกุม 1580 ราย
ผู้ต้องหา 1593 คน
แบ่งเป็นยาบ้า 439,389 เม็ด, ยาไอซ์
151.890 กรัม, เคตามีน 35.190 กรัม และยาอี 5.08 เม็ด
-ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม
104 ราย ผู้ต้องหา 103 คน
-คดีประเภทตามความผิด
พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 (แรงงานต่างด้าว) จับกุม 501ราย ผู้ต้องหา 502 คน
-คดีค้างเก่าบุคคลตามหมายจับ จับกุม
1138 ราย ผู้ต้องหา 1,094 คน
-คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุม 666
ราย ผู้ต้องหา 662 คน
ตำรวจภูธรภาค 1 ได้สนองนโยบายรัฐบาล
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลพี่น้องประชาชน โดยการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของประชาชน
ลดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
และการก่อความไม่สงบเรียบร้อยที่อาจเกิดขึ้น และขอความร่วมมือจาก
ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยสังคม
แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายผ่านทางสถานีตำรวจทุกแห่ง
และหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 191
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ
ไม่มีความคิดเห็น