Header Ads

Breaking News

ผบ.ตร.-ตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวทลายเครือข่าย ขยายผลจับเพิ่มคดีหลอกลงทุน Turtle Farm ยึดกว่า 100 ล้านบาท


ผบ.ตร.-ตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวทลายเครือข่าย ขยายผลจับเพิ่มคดีหลอกลงทุน
Turtle Farm ยึดกว่า 100 ล้านบาท

 

ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลทลายเครือข่ายคดีหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ตรวจยึดของกลางกว่า 100 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.65 เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.

 

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3, นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงาน ปปง. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการขยายผลทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก มีรายละเอียดดังนี้

 

ตามที่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงผลการทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหาที่ได้หลอกลวงชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนปลูกเห็ด กัญชา พืชกระท่อม เลี้ยงผึ้ง ฯลฯ โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ต่อมาผู้ต้องหากับพวกอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย จากนั้นพนักงานสอบสวนปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 9 ราย

 

ผลการปฏิบัติสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย และสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกว่า 72 บัญชี อายัดเงิน ได้กว่า 17.5 ล้านบาท นั้น

 

ต่อมาในระหว่างเดือน ส.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย

 

กระทั่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า บริษัทฯ ออนไลน์ แห่งหนึ่ง มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับอีก 2 บริษัทของกลุ่มผู้ต้องหา โดยถูกว่าจ้างให้ทำการโฆษณา สร้างภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ หลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุน โดยได้รับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหากว่า 72 ครั้ง รวมเป็นเงิน 134 ล้านบาท  พงส.จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรีขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 จุด คือ

1.บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง 57 รายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับทองคำ, นาฬิกา, โฉนดที่ดิน และเงินสด จำนวน 10.6 ล้านบาท

2.บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองสามวา เขตสามวาตะวันตก กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง ตู้นิรภัยบรรจุเงินสด จำนวน 88 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อ ปอร์เช่ (Porsche) สีส้ม รุ่น Boxster PDK 1 คัน

รวมผลการตรวจค้น ทั้ง 2 จุด ตรวจยึดของกลางกว่า 56 รายการ เงินสดรวม 98.6 ล้านบาท

 

ปัจจุบัน มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com กว่า 2,702 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,650 ล้านบาท

 

อนึ่งผู้ต้องหาที่หลบไปนอกราชอาณาจักร พงส.ได้ทำหนังสือติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อประกอบคำร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และคำร้องขอออกหมายตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ไปยังกองการต่างประเทศ แล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งจะได้ติดตามประสานงานนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ การปฏิบัติการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อน และอำนวยความยุติธรรมของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ









ไม่มีความคิดเห็น