"สุนทร" เดินสายมอบนโยบายกรมพัฒนาที่ดิน น้อมนำพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” นำเทคโนโลยีพัฒนางานวิจัย อนุรักษ์ดินและน้ำ รักษาสมดุลระบบนิเวศทางการเกษตร
"สุนทร" เดินสายมอบนโยบายกรมพัฒนาที่ดิน น้อมนำพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” นำเทคโนโลยีพัฒนางานวิจัย อนุรักษ์ดินและน้ำ รักษาสมดุลระบบนิเวศทางการเกษตร
"สุนทร" เดินสายมอบนโยบายกรมพัฒนาที่ดิน
กำชับน้อมนำพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” พร้อมนำเทคโนโลยีพัฒนางานวิจัย ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ
เพื่อรักษาสมดุลระบบนิเวศทางการเกษตร
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พร้อมคณะทำงาน เดินทางมอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนงานของกรมพัฒนาที่ดิน โดยมี
นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน
เข้าร่วม
โดย นายสุนทร กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในการจัดการทรัพยากรดินที่เป็นพื้นฐานสำคัญ มีภารกิจในการสำรวจ วิเคราะห์จำแนกดิน
การวางแผนการใช้ที่ดิน
ทั้งพัฒนางานวิจัยเพื่อสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการดินที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่พัฒนาข้อมูล
เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีอนุรักษ์ดินและน้ำ
และปรับปรุงบำรุงดินเพื่อรักษาความสมดุล ความเสื่อมโทรมของที่ดินและนิเวศเกษตร
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญในวันนี้ คือ
อยากให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน มีความรักและภาคภูมิใจในองค์กร
ร่วมกันบูรณาการการทำงานเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น
และขอให้มีความสุขในการทำงาน เคารพในองค์กร และหน้าที่ของตัวเอง
โดยปฏิบัติงานให้เต็มความสามารถ เต็มศักยภาพ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนงานที่อยากเร่งรัดคือการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
การอนุรักษ์ดินและน้ำ รวมทั้งการขยายจำนวนหมอดินอาสา
และการให้ค่าตอบแทนหมอดินอาสาอย่างเหมาะสมด้วย
ในส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้ให้ความสำคัญกับด้านตลาดนำการผลิต การใช้เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ความปลอดภัย และความมั่นคงทางอาหาร
ความยั่งยืนในการผลิตภาคการเกษตรตามแนวทางศาสตร์พระราชา และการบูรณการการทำงานกับทุกภาคส่วน
โดยกรมพัฒนาที่ดิน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ภายใต้ประเด็นสำคัญ
ในด้านการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก
พัฒนาศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ บริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม
ส่งเสริมศูนย์เรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ส่งเสริม เกษตรกรรมยั่งยืน
พัฒนาการวิจัย และการพัฒนาฐานข้อมูล Big Data
จึงได้มีนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนงาน ดังนี้
คือ
1.งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้น้อมนำพระราชปณิธาน
“สืบสาน รักษา ต่อยอด” มากำหนดเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงาน
โดยเน้นให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้รับประโยชน์จากการพัฒนา
และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำ ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน
2.การอนุรักษ์ดินและน้ำ
เป็นภารกิจสำคัญในการช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ที่ดินในพื้นที่เกษตรกรและพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย
3.การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก แหล่งน้ำขนาดเล็ก เป็นมาตรการเพิ่มความมั่นคงของน้ำในภาคการเกษตร
มีความสำคัญต่อการบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง
รวมทั้งเป็นพื้นฐานของการผลิตในระดับชุมชนในการเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์
4.การพัฒนาหมอดินอาสา
ควรเพิ่มจำนวนหมอดินให้สอดคล้องกับจำนวนเกษตรกรในหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
พัฒนาความรู้และให้ค่าตอบแทนหมอดินอาสา
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการร่วมดูแลทรัพยากรดิน และถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกรในระดับพื้นที่
5.ด้านฐานข้อมูล Agri-Map เป็นภารกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
จะต้องพัฒนาให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และทั่วถึง
6.การลดต้นทุนการผลิต ดำเนินการให้ความรู้
สาธิต และฝึกปฏิบัติแก่เกษตรกร โดยเฉพาะในสถานการณ์ปุ๋ยเคมีราคาแพง
ให้ใช้สารอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมี
7.การพัฒนาเกษตรอินทรีย์
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยพัฒนากลุ่มเกษตรกรและเพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น
8.การพัฒนางานวิจัย โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในพื้นที่ รวมทั้งสามารถนำไปใช้กับเกษตรกร
เพื่อลดต้นทุนการผลิตเพิ่มผลผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
9.การบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน
เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิน
ซึ่งเป็นการพัฒนาในระดับต้นน้ำสู่การพัฒนาสินค้าเกษตรในระดับกลางน้ำ
หรือด้านการตลาดในระดับปลายน้ำ
10.การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนต่างๆ
ด้วยความรวดเร็วอย่างถูกต้อง และเป็นธรรม
11.การพัฒนาบุคลากรส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านองค์ความรู้คุณธรรม
และจริยธรรม รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานทำงานอย่างมีความสุข ทำงานด้วยความโปร่งใส
และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
ไม่มีความคิดเห็น