Header Ads

Breaking News

ตร.แถลงผลป้องกันปราบปรามอาชญากรรม จราจร ช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2567

ตร.แถลงผลป้องกันปราบปรามอาชญากรรม จราจร ช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2567

วันที่ 27 ธ.ค.66 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงผลการปฏิบัติมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านจราจร ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2567

​วันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นห้วงหยุดยาววันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2567 ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเยี่ยมเยียนบิดา มารดา ญาติพี่น้อง และเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในภูมิภาคต่างๆ เป็นจำนวนมาก และการเดินทางดังกล่าวอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการก่อความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้นได้


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตลอดระยะเวลาห้วงเทศกาล โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายและระดมกำลังทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ในห้วงวันที่ 18 ธันวาคม ถึง 27 ธันวาคม 2566 เพื่อเตรียมพร้อมช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยมีเป้าหมายหลักเป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และ การลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางออฟไลน์ และออนไลน์  อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยาเสพติด การควบคุมสถานบริการ และความผิดเกี่ยวกับคนเข้าเมือง กลุ่มแก็งอาชญากรรมข้ามชาติผิดกฎหมาย ตลอดจนบุคคลตามหมายจับที่ทางการต้องการตัวทุกข้อกล่าวหา โดยมีผลการระดมกวาดล้าง ห้วงวันที่ 18 ธันวาคม ถึง 27 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาดังนี้

แถลงผลงานที่ 1

จับกุมความผิดอาชญากรรม On ground รวมจับกุม 23,535 คดี ผู้ต้องหา 24,543 ราย เป็นความผิด ดังต่อไปนี้

​​​  1.1 ความผิดเกี่ยวกับการพนัน รวม 2,778 คดี ผู้ต้องหา 3,498 ราย

​​​  1.2 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 13,722 คดี ผู้ต้องหา 13,741 ราย

​​​  1.3 ความผิดเกี่ยวกับคนเข้าเมือง ​รวม 6,589 คดี ผู้ต้องหา 6,856 ราย

​​​  1.4 ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ ​รวม 446  คดี ผู้ต้องหา 448 ราย

คดีรายสำคัญ 

-กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติดข้ามชาติ ตรวจยึดยาเสพติดชนิดไอซ์อัดในถุงผลไม้อบแห้ง และคีตามีนอัดในถุงชา น้ำหนักรวม 2,200 กิโลกรัม  ได้บริเวณบริษัทท่าเรือบางปะกง อำเภอ บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา  ทำการสืบสวนขยายผลสามารถจับกุมและยึดทรัพย์ นายชาญชัยฯ หรือกัปตันตุ้ย ตัวการกับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมลำเลียงส่งยาเสพติดในน่านน้ำสากลปลายทางไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฯลฯ  ได้ทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ประเภท ร้านอาหาร  กิจการเดินเรือ  เงินสด  ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์ ฯลฯ มูลค่ากว่า 140 ล้านบาท

- ตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 38/2 ตำบล สำนักทอง อำเภอ เมืองระยอง ตรวจยึดของกลางจำพวกรถยนต์ 9 คัน รถจักรยายนต์ 4 คัน เอกสารการจำนำรถ สัญญาเงินกู้ สมุดบัญชีเงินฝาก ฯลฯ ดำเนินคดี นางสาววรรณิดา ฟุ้งมาก ข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด  มูลค่าเงินหมุนเวียนกว่า  2.5 ล้านบาท

- ตำรวจภูธรภาค 7 จับกุม การจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ของกลางยาไอซ์ 37 กิโลกรัม ยาอี 220 เม็ด เคตามีน 6.54 กิโลกรัม และยาบ้ากว่า 170,000 เม็ด


- กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

-จับกุม นางสาวคนึงฯ กับพวก ฐานเป็นเจ้าหนักงานทุจริตต่อหน้าที่ฯ ที่ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

-จับกุมโรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อนที่ อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี ดำเนินคดี นางสาวธันย์ดารินทร์ฯ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ

-จับกุมหมอเถื่อนชาวเวียดนามดำเนินคดี นายเหงี่ยน ข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาล(เสริมความงาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 

-จับกุมทลายโกดังเถื่อน อำเภอ ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ลักลอบผลิตวัตถุอันตรายทางการประมงเพื่อส่งจำหน่ายแก่เกษตรกร  ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายฯ ข้อหาเก็บวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ขึ้นทะเบียนไว้ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,500,000 บาท

แถลงผลงานที่ 2

จับกุมความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี Online รวมจับกุม 3,430 คดี ผู้ต้องหา 3,350 ราย โดยเป็นความผิดดังต่อไปนี้

​​​2.1 ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน รวม 240 คดี ผู้ต้องหา 232 ราย

​​​2.2 ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย รวม 562 คดี ผู้ต้องหา 538 ราย

​​​2.3 ความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวปลอม รวม 823 คดี ผู้ต้องหา 745 ราย

​​​2.4 ความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก รวมจำนวน 176 คดี ผู้ต้องหา 176 ราย

​​​2.5 ความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ

รวม 1,629 คดี ผู้ต้องหา  1,659 ราย

​​คดีรายสำคัญ เช่น 

-จับกุมนายธราธิป ปิ่นกุมภีร์ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ (พระเครี่อง) และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท ย่านสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ

-จับกุมกลุ่มคนร้ายพฤติกรรมหลอกลวงเทรดหุ้น AURORA เงินหมุนเวียนกว่า 70 ล้านบาท

-จับกุมนายเขมมิกาฯ ข้อหาเป็นธุระจัดหา พาไปเพื่อการอนาจาร อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น

แถลงผลงานที่ 3

ผลการกวดขันจับกุมบุคคลตามหมายจับ รวม 5,618 หมายจับ ผู้ต้องหา 5,428 ราย หมายจับรายสำคัญ 

- หมายจับกุม นายฟงเหา, พลเรือตรี ป.(นามสมมุติ) และ นายเทวราช ฐานเป็นผู้ใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่นฯ

- หมายจับ นางสาวพิมพ์นารา ฐานกันร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 130 ล้านบาท

- หมายจับ น.ส.สิริธร ฐานฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หมายจับตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 ถึง 2566 จำนวน 11 หมาย ผู้เสียหายนับ 100 ราย มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท

แถลงผลงานที่ 4

ผลการกวดขันจับกุมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 รวมจำนวน 189  คดี ผู้ต้องหา 183 ราย คดีรายสำคัญ เช่น การจับกุมนายอาเจาเต๋อ กับพวก เป็นธุระจัดหาบัญชีม้าเพื่อใช้การหลอกลวงรายใหญ่ ผ่านการลวงลวงบริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ทางแอพพลิเคชั่นของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยใบอนุญาตประกอบธุรกิจปลอม 

แถลงผลงานที่ 5

ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน

5.1 อาวุธปืนสงคราม  จำนวน 9 คดี ผู้ต้องหา 9 ราย ของกลาง 5 กระบอก 

​​5.2 อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 1,900 คดี ผู้ต้องหา 1,863 ราย ของกลาง 2,057 กระบอก 

5.3 อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 324 คดี ผู้ต้องหา 315 ราย ของกลาง 483 กระบอก

5.4 วัตถุระเบิด จำนวน 43 คดี ผู้ต้องหา 50 ราย ของกลาง 49 ลูก 

​​5.5 เครื่องกระสุนปืน จำนวน 579 คดี ผู้ต้องหาราย 521 ของกลาง 37,394 นัด 

​​คดีรายสำคัญ เช่น การตรวจค้นจับกุม นายสุเมธ (ขยายผล) กับพวก บริเวณบ้านพักใน อำเภอศรีมโหสถ  อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี และ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีฐาน ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ จำนวน 110 กระบอก และกระสุนปืนรวม 12,061 นัด

​พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายในการให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจังมาโดยตลอด จึงได้มีการบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและความผิดต่างๆ พร้อมกันทั่วประเทศอยู่เสมอ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมลดลงและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งต่อพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนจากต่างประเทศ อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศ

​การระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดอาวุธปืน ตลอดจนของกลางอื่นๆ ได้จำนวนมากในครั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อเป็นของขวัญแด่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และการนี้ขอได้ฝากประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน ซึ่งหากมีเบาะแส/เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมหรือเรื่องอื่น ๆ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง




















ไม่มีความคิดเห็น