Header Ads

Breaking News

ตำรวจไซเบอร์ จับรับจ้างเปิด “บัญชีม้า” เยาวชนอายุต่ำสุด 15 ปี เสียอนาคต ร่วมหลอกลวง ภัยออนไลน์


ว่าจ้างผู้อื่นให้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้ แล้วนำบัญชีธนาคารนั้นไปกระทำความผิด หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า”

จับกุมผู้ต้องหา 131 ราย ตรวจยึดของกลางบัญชีม้าจำนวนมาก ความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

 

วันที่ 23 ธ.ค.64 เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด  จ.นนทบุรี

 

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาในสังกัด บช.สอท.-คณะทำงานฯ และ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รรท.เลขาฯ กสทช., นายธวัช ไทรราหู ประธานชมรมตรวจสอบและป้องกันทุจริต สมาคมธนาคารไทย, และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการระดมปฏิบัติการปราบปราม ”บัญชีม้า” เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงภัยออนไลน์ โดยในระหว่างวันที่ 16-22 ธ.ค.2564 (7 วัน) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 26 ราย ตรวจยึดของกลางบัญชีธนาคารจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 36 ล้านบาท เช่น คดีหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเทรดเงินสกุลดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน DAXIN, คดีหลอกขายโทรศัพท์ไอโฟนให้กับเด็ก นร.ชั้น ม.2 อายุ 14 ปี, คดีเล่นแอปหาคู่ถูกหญิงหลอกเล่นหุ้นออนไลน์, คดีเอเย่นต์รับซื้อขายบัญชีม้า และปล่อยเลขล็อคกองสลาก

 

คดีสำคัญคือ ตำรวจไซเบอร์ได้นำกำลังเข้าค้นบ้านพักในจังหวัดชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นบ้านของขบวนการเอเย่นต์รับซื้อขายบัญชีม้า ตรวจค้นพบบัญชีธนาคารหลายธนาคารรวม 107 บัญชี ของบุคคลต่างๆ รวมกว่า 60 คน เจ้าของบ้านยอมรับว่า ได้รับซื้อบัญชีจากชาวบ้านในละแวก บัญชีละ 800-1200 บาท ซึ่งแต่ละบัญชีจะต้องมีบัตร ATM หรือผูกกับแอปพลิเคชั่นธนาคารออนไลน์ไว้แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่ามี 10 บัญชีจาก 107 บัญชี เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีม้ามาแล้ว อีกทั้งลักษณะของถิ่นที่อยู่เจ้าของบัญชียังพบว่ามีลักษณะเกาะกลุ่มในพื้นที่เดียวกัน เช่น ตำบลเดียวกัน หมู่บ้านเดียวกัน โดยมักจะเป็นชุมชนของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

 

ออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้า 518 หมายจับทั่วประเทศ แบ่งเป็นตำรวจไซเบอร์กว่า 100 หมายจับ และตำรวจท้องที่อีกกว่า 400 หมายจับ บัญชีม้าส่วนใหญ่ที่พบเป็นเยาวชน บางคนอายุต่ำกว่า 15 ปี มีเงินหมุนเวียนเข้าออกเป็นจำนวนมาก จึงได้ประสานกับสมาคมธนาคารฯ ให้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของเงินจำนวนมากผิดปกติในบัญชีเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ยืนยันไม่ได้เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป

 

ขณะที่นายธวัช ไทรราหู ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่าในการติดตามเงินของผู้เสียหายยังมีอุปสรรคเรื่องของระยะเวลาในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และ กรอบอำนาจตามกฎหมายที่จะแก้ปัญหาให้ทันสถานการณ์ แต่ขณะนี้ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานไปทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว

 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “ 1.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 60 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ชัยรัตน์..รายงาน






ไม่มีความคิดเห็น