Header Ads

Breaking News

“นพศิลป์” รอง ผบช.น. จับแก๊งค์ผลิตป้ายทะเบียนรถปลอม-แท็กซี่สวมทะเบียนซ้ำ เจอคุก ศปอส.น. จับแก๊งค์แฮกเว็บ.ราชการ กว่า 100 เว็บ. ทำโฆษณาพนันออนไลน์ เงินหมุนกว่า100ล้าน


“นพศิลป์” รอง ผบช.น. จับแก๊งค์
ผลิตป้ายทะเบียนรถปลอม-แท็กซี่สวมทะเบียนซ้ำ เจอคุก

ศปอส.น. จับแก๊งค์แฮกเว็บ.ราชการ กว่า 100 เว็บ. ทำโฆษณาพนันออนไลน์ เงินหมุนกว่า100ล้าน

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.65 เวลา 14.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.),  พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.น., ร่วมแถลงข่าว ดังนี้

1. ศปจร.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ฯ แถลงข่าวผลการจับกุมรถแท็กซี่เถื่อน สวมทะเบียน ตระเวนรับผู้โดยสารมา 4-5 ปี ปลอมกับรถแท็กซี่รุ่น-สีเดียวกัน และรถยนต์ส่วนตัวสวมทะเบียนปลอมอีก 5 คัน จับกุมได้พื้นที่สน.สุทธิสาร, สภ.ไทรน้อย, สภ.คลองหลวง, สภ.รัตนาธิเบศร์, สน.วังทองหลาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม บริเวณต.คลองสาม จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจยึดเครื่องปั๊มทะเบียน, แบบปั๊มอักษรย่อ “ขส”, บล็อกอะครีลิก ตัวอักษร หมวดจังหวัด และแผ่นอะลูมิเนียมใช้ผลิตแผ่นป้ายทะเบียน กว่า 300 รายการ

จึงขยายผลไปยังผู้สั่งซื้อป้ายทะเบียนปลอม พบรถแท็กซี่อายุเกิน 12 ปี ติดป้ายทะเบียนสีเหลืองตัวอักษรสีดำ มฎ-5148 กทม. ติดป้ายทะเบียนปลอม ซ้ำกับรถแท๊กซี่คันจริง ขับรับส่งผู้โดยสารมาแล้ว 4-5 ปี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายแก่ผู้โดยสารแท็กซี่ทั่วไป เสี่ยงถูกละเมิดทางเพศ จี้ชิงทรัพย์ โดยผู้ต้องหาสารภาพว่าดัดแปลงสภาพรถซื้อแผ่นป้ายทะเบียนปลอมที่ถูกจับ ราคา 30,000 บาท หลังซื้อรถเกินอายุ 12 ปี ราคา 100,000 บาท มาทำใหม่ เหตุทำงานอาชีพรับจ้างมาก่อน

ศปจร.น. ขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่เจ้าของสั่งซื้อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม (สีชมพู-ฟ้า) เพื่อสวมกับรถยนต์คันอื่นๆในลักษณะปลอมกับรถยนต์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันหรือรถแฝด อีกจำนวน 5 คัน

ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นรถหนีไฟแนนซ์ รถหลุดจำนำหลายทอด ไม่สามารถติดแผ่นป้ายจริงได้ จึงซื้อจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้ตำรวจกำลังขยายผลต่อ

พล.ต.ต.นิตินันท์ ฝากประชาสัมพันธ์กับประชาชนในการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต้องใช้แผ่นป้ายทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก เท่านั้น หากพบการใช้ป้ายทะเบียนปลอม รวมถึงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม มีความผิดตามกฎหมายอาญา ผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้เปิดคู่สายพิเศษเบอร์ 191 พร้อมรับใช้ดูแลสืบสวนสอบสวนต่อ ถ้าแจ้งก็มีการตรวจสอบได้ทันที

2. ศปอส.น. จับกุมแก๊งค์แฮกเว็บไซต์หน่วยงานราชการ กว่า 100 เว็บไซต์ นำไปทำโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์ ยอดเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้าน จับกุมผู้ต้องหา 14 ราย พร้อมของกลางชุดคอมพิวเตอร์ 14 เครื่อง ประกอบด้วย CPU จอคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ อื่นๆ ใช้สำหรับโฆษณาเว็บไซต์การพนัน และการพนันบอลออนไลน์ พร้อมโทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง จับกุมได้ที่บ้านพักในถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตเทียนทะเล กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.นิธิธร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ศปอส.น.พบว่า มีแก๊งแฮกเว็บไซต์หน่วยงานราชการจำนวนมาก เพื่อโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันการให้บริการโฆษณาต่างๆ บนเว็บไซต์ google มีระบบตรวจจับและป้องกันการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย หากตรวจพบ จะทำการบล็อกสัญญาณและปิดช่องทางการโฆษณาบนหน้าเว็บ google ทันที เว็บพนันจึงอาศัยความน่าเชื่อถือของเว็บหน่วยงานราชการที่ได้รับการตรวจสอบจาก google เข้าแฮกแล้วนำลิงก์เข้าฝังไว้ มีผลทำให้ประชาชน เยาวชน เห็นเว็บพนันผ่านเว็บหน่วยงานราชการ จากการสืบสวนพบว่า ขณะนี้มีเว็บหน่วยงานราชการ 115 เว็บ ถูกเว็บพนัน 50 เว็บ นำลิงก์เข้าไปฝังไว้

ศปอส.น.ขยายผลจับกุมจนทราบว่า มีผู้ดำเนินการแฮกเว็บไซต์ ทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ว่อนเน็ตในช่วงบอลโลก จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักดังกล่าว พร้อมยึดของกลาง พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 200 ล้านบาท

แจ้งข้อหา “เป็นเจ้ามือเปิดให้รับทายผลฟุตบอลต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงนำตัวดำเนินคดี พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ได้รับแจ้งความพนันออนไลน์ 16,000 กว่าคดี ดำเนินคดี 200 คดี มีผู้ต้องหา 2,000 ราย ออกหมายจับกว่า 400 ราย จับกุมรายย่อย (โพย) ตามสถานที่ต่างๆ 200 ราย มูลค่าเงินอายัด 160 ล้านบาท









 

 

ไม่มีความคิดเห็น