ผบช.ภ.7 จับก๊อดอาร์มี่ 1ใน5 เมียนมา แก๊งอุ้มฆ่าโหดซ้อมปาดคอเพื่อนร่วมชาติ ทิ้งบ่อกุ้ง รีบหนีนอกประเทศสุดชายแดนกาญจนบุรี เหตุเกิดพื้นที่ สภ.กระทุ่มแบน

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.66 เวลา 16.00น. ที่บริเวณหน้า สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตรธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ร่วมกันแถลงจับกุมแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มเมียนมา อุ้มตัวไปจากพื้นที่ตำบลแคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก่อนฆ่าตายกลายเป็นศพถูกทิ้งอยู่ในบ่อกุ้ง จ.สมุทรสงคราม โดยจับกุมผู้ต้องหาชายชาวเมียนมา 5 คน อายุ 30 ปี อายุ 24 ปี อายุ 33 ปี 25 ปี และ อายุ 24 ปี โดยคนร้าย1คน เคยเป็นอดีตนักฆ่ากลุ่มก๊อดอาร์มี่ โดยจับกุมได้พร้อมของกลางรถโตโยต้า สีทอง ทะเบียน จว.สมุทรสาคร, รถกระบะ สีเทา ทะเบียน จว.กาญจนบุรี และมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตร 1 เล่ม พร้อมนำรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีทอง ของผู้เสียชีวิต ขับหลบหนีไปด้วย 

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถึงแก่ความตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ บ้านปิล็อคคี่ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จว.กาญจนบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งเหตุบุกรุกทำร้ายร่างกาย อุ้มผู้เสียหายไปจากห้องเช่า ตลาดนัดคุณนาย หมู่ 1 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลักฐานกล้องวงจรปิด ปรากฎภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายจับตัวชายชาวเมียนมา ที่กำลังนอนพักอยู่ในห้องออกไปจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำรถโตโยต้า ของผู้ตายไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนติดตามและพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน พร้อมตรวจสอบกล้องจรปิดตามเส้นทางหลบหนีพบมุ่งหน้าเข้ากระทุ่มแบน-สมุทรสาคร โดยมีรถกระบะขับนำหน้าอีกคัน และมีรถ จยย.อีกคัน ขี่ตามกันไปมุ่งหน้า จ.สมุทรสงคราม จึงเร่งติดตาม

จากนั้นเวลาประมาณ 09.57 น. วันเดียวกัน (2 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งพบศพลอยน้ำ บริเวณลำรางสาธารณะ หมู่ 4 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงเข้าตรวจสอบพบศพชายไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลฉีกขาดที่คอด้านหน้า หลอดลมขาด แผลแตกเหนือคิ้วขวา และเหนือริมฝีปากขวา

พบคราบเลือดจำนวนมากริมคันดินใกล้ศพ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชายชาวเมียนมา ที่ถูกอุ้มมาจากพื้นที่กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงบูรณาการการทำงานเร่งสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุเรื่อยมา และสนธิความร่วมมือกับตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ 5 คน ขณะกำลังเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศตามช่องทางธรรมชาติ สุดชายแดน จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแก๊งอุ้มฆ่า ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันอุ้มผู้เสียชีวิตไปจากพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนจริง เหตุเพราะความแค้นใจที่ผู้ตายเคยข่มขืนน้องสาวของ 1 ในผู้ต้องหา จึงวางแผนมาจับตัวขึ้นรถแล้วทำร้ายร่างกายบนรถไปตลอดทางจนสลบในรถ จากนั้นหนึ่งในผู้ต้องหาได้ลงมือฆ่าปาดคอผู้เสียชีวิต แล้วทิ้งศพในบ่อกุ้งที่ จ.สมุทรสงคราม ส่วนรถของผู้เสียชีวิต เอาไปทิ้งไว้ใน จ.เพชรบุรี ก่อนหลบหนีไป จ.กาญจนบุรี เพื่อเตรียมหนีข้ามไปประเทศเมียนมา แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นของการฆาตกรรมโหดนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทิ้งข้อสงสัยอื่นๆ ทั้งเรื่องชู้สาว และขัดผลประโยชน์กันเองในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของกลุ่มคนเหล่านี้ พบว่าเคยมีบางคนเป็นถึงอดีตนักฆ่ากลุ่มก๊อดอาร์มี่ ที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธ ฆ่าคนได้แบบเด็ดขาด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ระมัดระวังอย่างมากขณะเข้าจับคนร้าย และให้จัดการขั้นเด็ดขาดได้ หากมีการต่อสู้ อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคมด้วยการตั้งแก๊งมาเฟียต่างด้าว เพื่อหวังขยายอิทธิ และอำนาจในการเรียกรับผลประโยชน์จากคนกลุ่มเดียวกัน จึงต้องเร่งปราบปรามให้สิ้นซาก โดยจะได้ขยายผลต่อไป ส่วนผู้ต้องหานั้นพบว่ายังมีผู้ที่หลบหนีอีก 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด.

สำหรับประเด็นของการฆาตกรรมนี้ ทางตำรวจยังไม่ทิ้งข้อสงสัยอื่นๆ ทั้งเรื่องชู้สาวและขัดผลประโยชน์กันเองในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของกลุ่มคนเหล่านี้

สำหรับรถที่ใช้ในการอุ้มฆ่าครั้งนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า เป็นรถของไฟแนนซ์ ที่มีการเช่าใช้ ทำให้ติดตามเจอได้ เนื่องจากบริษัทไฟแนนซ์ได้ติด GPS ติดตามไว้ที่ตัวรถ ก่อนจะนำส่งมาที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อให้ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบต่อไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่ลงมือผู้ต้องหาอ้างว่า ผู้ตายได้ข่มขืนญาติของผู้ก่อเหตุ ที่มาอยู่ในประเทศไทยด้วยกัน แต่ตอนนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และคาดว่ามีปัญหากันในเรื่องของการขัดผลประโยชน์ด้วย เนื่องจากทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ตายรู้จักกันเป็นอย่างดี และมีอาชีพนายหน้า พาชาวเมียนมา เข้ามาทำงานในประเทศไทย รวมถึงเป็นแก๊งมาเฟียที่มีอิทธิพลในพื้นที่อีกด้วย

ขณะนี้ตำรวจยังเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุอีก 4 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด