“พาณิชย์” “SMEs” หารือ 3 ฝ่าย ร้องเรียนมาตรการตอบโต้ทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นจากจีนและเกาหลี
“พาณิชย์” “SMEs” หารือ 3 ฝ่าย ร้องเรียนมาตรการตอบโต้ทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นจากจีนและเกาหลี
“พาณิชย์” เชิญ “SMEs” หารือร่วม 3 ฝ่าย
กรณีร้องเรียนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นจากจีนและเกาหลี
วันที่ 13 มิถุนายน 2565 นายพันธนวุฒิ ถิ่นคำแบ่ง
นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย
และประธานสหพันธ์ผู้นำเข้าเหล็กและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมด้วย ดร.ศุภชัย
แก้วศิริ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สภาเอสเอ็มอี) นายสุจินต์ พิทักษ์
ประธานสภาเอสเอ็มอี จังหวัดสมุทรสาคร และนายเชาวลิต กาญจนาคาร
ประธานสมาพันธ์ผู้บริโภคหลังคาเหล็กไทย
ในนามผู้ใช้และผู้บริโภคผลิตภัณฑ์จากหลังคาเหล็กไทย
ร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ประกอบไปด้วย กรมการค้าภายใน
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
(สมอ.) และผู้แทนอุตสาหกรรมภายใน ตามคำเชิญของกรมการค้าต่างประเทศ
สืบเนื่องมาจาก สมาคมฯ
ได้ร้องเรียนถึงผลกระทบจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping : AD) สินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นชุบหรือเคลือบด้วยโลหะเจือของอะลูมิเนียมและสังกะสีแบบจุ่มร้อนแล้วทาสี
(PPGL) ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
สาธารณรัฐเกาหลี และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ต่อกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายบุญธีร์
พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมหารือด้วย
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งสมาคมฯ ได้มีข้อร้องเรียน ดังนี้
1. สินค้าเหล็ก PPGL ขาดแคลน
เนื่องจากอุตสาหกรรมภายในมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
2.
อุตสาหกรรมภายในไม่สามารถผลิตได้คุณภาพตามความต้องการใช้งานของผู้บริโภค
3. เสนอให้มีการใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
(มอก.) กับสินค้าเหล็ก PPGL
4. ขอทบทวนอุตราอากร AD ของสาธารณัฐประชาชนจีน
ที่มีอัตราสูงถึงร้อยละ 40.77 โดยขอให้เก็บอัตราร้อยละ 0 ต่อไปอีก
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค
5.
ขอให้พิจารณาทบทวนการต่อมาตรการตอบโต้การทุมตลาดเหล็กรีดหลังคาจากเวียดนามทั้ง GL และ PPGL โดยให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
ผลจากการหารือในรอบนี้ สรุปได้ว่า “กรมการค้าต่างประเทศจะพิจารณาส่วนเหลื่อมของการทุ่มตลาดสินค้าชนิดเดียวกันโดยตั้งอยู่บนมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เดียวกัน เพื่อปรับปรุงอัตราภาษีที่เรียกเก็บอยู่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของ สมอ. จะเร่งดำเนินการออกมาตรฐานบังคับใช้สำหรับสินค้า GL และ PPGL ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จะเร่งรัดสรุปสำนวนที่สมาคมฯ เคยยื่นร้องเอาไว้โดยกำหนดกรอบเวลาภายใน 30 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศเสนอให้สมาคมฯ ยื่นทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเข้ามาเป็นรายกรณีๆ ไป ขณะที่อุตสาหกรรมภายใน เสนอให้สมาคมฯ รวบรวมความต้องการการใช้งานเข้ามาอย่างน้อย 3,500-5,000 ตัน เพื่อพิจารณาให้ราคาพิเศษ (ราคาดีลเลอร์) อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสมาคมฯ มองว่าข้อเสนอนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ของผู้ใช้งานและผู้บริโภคในประเทศทั้งระบบ แต่จะรับข้อเสนอนี้ไปเสนอกับสมาชิกแล้วนำข้อสรุปมาแจ้งในที่ประชุมในครั้งต่อไป” นายพันธนวุฒิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น