จ.ลำพูน เปิดศูนย์กัญชา ขับเคลื่อนทางการแพทย์ ประโยชน์วิสาหกิจชุมชน-สุขภาพประชาชนภาคเหนือ

จ.ลำพูน เปิดศูนย์กัญชา ขับเคลื่อนทางการแพทย์ ประโยชน์วิสาหกิจชุมชน-สุขภาพประชาชนภาคเหนือ

 

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565  ที่ ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน  นายธานินทร์ สุภาแสน ผอ.ศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา ภาคเหนือ, รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข อดีตรองอธิการบดี ม.เชียงใหม่/ประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ, ดร.มานะ กำจรตรีโรจน์  รองประธานศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา, ดร.อัศวิน วัฒนปราโมทย์ ประธานบริหาร บริษัทโพแลค(ประเทศไทย)จำกัด ร่วมกันเปิดป้ายสำนักงานศูนย์บูรณาการความรู้กัญชาภาคเหนือ ณ บริษัทโพแลค (ประเทศไทย)จำกัด ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความรู้ด้านกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และประโยชน์ต่อวิสาหกิจชุมชน เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชนในภาคเหนือ

       

โดยมี ดร.มานะ  กำจรตรีโรจน์ รองประธานศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา กล่าวยินดี และแนะนำภารกิจศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา, รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข อดีตรองอธิการบดี ม.เชียงใหม่/ประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ บรรยายพิเศษ "การใช้กัญชาทางการแพทย์" ด้านนายดุษฎี วรธรรมดุษฎี กรรมการสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย นำเสนอผลการวิจัยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน พร้อมตอบข้อซักถาม โดยมีนายธานินทร์ สุภาแสน ผอ.ศูนย์บูรณาการความรู้กัญชาภาคเหนือ ร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้เข้าประชุม 

      

นายธานินทร์ สุภาแสน ผอ.ศูนย์บูรณาการความรู้กัญชาภาคเหนือ กล่าวว่า ศูนย์แห่งนี้โดยความตั้งใจและสนใจประโยชน์จากกัญชาที่มีอยู่ โดยเมื่อพบว่าคนใกล้ตัวได้เริ่มเจ็บป่วยหลายโรคโดยเฉพาะมะเร็ง แล้วได้รับการรักษาโดยยาที่ได้จากกัญชาทางการแพทย์ และทำการรักษาก็ทำให้ดีขึ้นและลดค่าใช้จ่ายได้มาก จากที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลักแสน ลดลงเหลือหลักพัน ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก จึงให้ความสนใจและศึกษามาโดยตลอด  ศูนย์ฯที่ตั้งขึ้นนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อวิสาหกิจชุมชนและสร้างภาคีเครือข่ายทั่วภาคเหนือ ขับเคลื่อนตั้งแต่ปลูก การวิจัย การขยายผลิตภัณฑ์และพัฒนาให้เป็นระโยชน์แก่วิสาหกิจชุมชน  ภาคี ประชาชน และสังคมต่อไป

      

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างยั่งยืน ได้ส่งเสริมการผลิตกัญชาทางการแพทย์ โดยมีความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม สหกรณ์การเกษตร และมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย

**********************

กฤตยชญ์ พิงคะสัน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน