Header Ads

Breaking News

ตำรวจภูธรภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ลำเลียงสายเหนือ ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด กว่า 300 ล้านบาท

 


ตำรวจภูธรภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ลำเลียงสายเหนือ ยึดยาบ้า 10 ล้านเม็ด กว่า 300 ล้านบาท 

วันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 10.30 น. ณ ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1,

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ร่วมกันแถลงผล สืบเนื่องจากได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายายาเสพติดและทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายจรัสหรือคิว อายุ 47 ปี และ นายธีรนันท์ หรือเค อายุ 45 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด 

ต่อมาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง ใช้รถบรรทุก HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก และใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เป็นยานพาหนะ ในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (บริเวณขาเข้า กทม.) ม.3 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้ 

1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50 กระสอบ รวมจำนวน 5,000 มัด ประมาณ 10,000,000 เม็ด 

2.) รถบรรทุก HINO สีขาว จำนวน 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด) 

3.) รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง) 

โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสอง กระทำผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (บริเวณขาเข้า กทม.) ม.3 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 19.15 น. 

จากการซักถามขยายผล ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ร่วมกันขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจากจังหวัดพะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ต้องหาจะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 200,000 บาท และผู้ต้องหาอีกคนจะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 30,000 บาท และได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองแล้วพบว่าผู้ต้องหาคนหนึ่งเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในฐานความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สภ.เวียงสา ภ.จว.น่าน 

การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป









ไม่มีความคิดเห็น