Header Ads

Breaking News

ตำรวจไซเบอร์ จับเจ้าพ่อเงินกู้คลองแห หลอกปล่อยกู้ไม่อั้น เหลี่ยมจัดอำพรางสัญญา ไม่รอดคุก


ตำรวจไซเบอร์ จับเจ้าพ่อเงินกู้คลองแห หลอกปล่อยกู้ไม่อั้น เหลี่ยมจัดอำพรางสัญญา ไม่รอดคุก

ตำรวจไซเบอร์ บุกค้นบ้านเจ้าพ่อเงินกู้คลองแห ส่งนายหน้าหลอกปล่อยกู้ไม่อั้น เหลี่ยมจัดอำพรางสัญญา

ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน

พ.ศ.2523 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.5 ทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ และ พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินฯ โดยมีการสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง

สืบเนื่องจากมีชาว จ.สงขลา ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ยึดโฉนดที่ดิน แล้วยังตามทวงเอาดอกเบี้ยเพิ่มจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติสุขได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.5 จึงทำการสืบสวนทราบว่า “นายใจ (นามสมมติ)” ประกอบอาชีพเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้เป็นอาชีพหลัก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการแอบลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยมีการส่งนายหน้าไปหากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมไปถึงประชาชนในละแวกใกล้เคียง แล้วโฆษณาชักชวนให้กู้ไม่จำกัด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในอัตราร้อยละ 5-10 ต่อเดือน โดยใช้การ

อำพรางสัญญาว่าเป็นการซื้อสิ่งของ เช่น โทรศัพท์ มือถือ ฯลฯ โดยที่ไม่ได้เป็นการซื้อสินค้านั้นจริงๆ

หรือการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 60-120 ต่อปี จะต้องมีการวางโฉนดไว้เป็นหลักค้ำประกัน หากเป็นโฉนดที่ไม่ใช่การขายฝาก จะใช้วิธีการฟ้องบังคับจำนองกับโอนลอย ซึ่งได้ทำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และมีพฤติการณ์ในการทวงหนี้ ไปติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ มีการข่มขู่ลูกหนี้ ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย อับอาย และเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลแขวงสงขลา เพื่อเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 8 มี.ค.67 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 ชุดจับกุม ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.42-43/2567 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2567 พบว่าบ้านดังกล่าวเป็นห้องแถว 2 ห้องติดกัน พบผู้ต้องหารเดินออกมาเปิดประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอยู่ภายในบ้าน ดังนี้

1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ จำนวน 4 เล่ม

2. ใบแทนโฉนดที่ดิน ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 3 ฉบับ

3. สำเนาใบแทนโฉนดที่ดิน ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 4 ฉบับ

4. สำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 3 ฉบับ

5. สำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรายละเอียดการกู้ยืมเงิน จำนวน 8 ฉบับ

6. สำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรายละเอียดการค้ำประกันเงินกู้ โดยใช้โฉนดที่ดิน เพื่อค้ำประกัน จำนวน 1 ฉบับ

7. หนังสือสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายใหม่ ที่ยังไม่ได้ใช้งาน จำนวน 1 เล่ม

8. หนังสือสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายใหม่ ที่ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ฉบับ

และได้ขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ยังพบว่ามีการข้อความสนทนาเกี่ยวกับปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ในแอปพลิเคชันไลน์ โดยให้การยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจริง และของกลางลำดับที่ 1-4 เป็นทรัพย์ที่ผู้กู้นำมาไว้เป็นประกันเงินกู้ ของกลางลำดับที่ 5-6 เป็นเอกสารใช้แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน หากผู้กู้ไม่ชำระ ก็จะใช้เอกสารดังกล่าวในการฟ้องบังคับคดี และรับว่าตนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ต่อเดือนจริง โดยภาพถ่ายข้อความการสนทนา เป็นข้อความการสนทนาพูดคุยติดตามทวงหนี้เงินกู้จากผู้กู้กับตนเอง จากโทรศัพท์ของตนเองจริง จึงได้จับกุมในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยจัดหามาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1)เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” นำตัวส่ง พงส. สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น