ตำรวจภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติด ทีมลำเลียง “เทพสองคอน” ยาบ้า10ล้านเม็ด มูลค่ากว่า300ล้าน ขนใส่รถปูนใหญ่บังหน้า ตบตา จนท.
ตำรวจภูธรภาค 1 จับเครือข่ายยาเสพติด ทีมลำเลียง “เทพสองคอน” ยาบ้า10ล้านเม็ด มูลค่ากว่า300ล้าน ขนใส่รถปูนใหญ่บังหน้า หวังตบตา จนท.
ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมเครือข่ายยาเสพติด ทีมลำเลียง
“เทพสองคอน” ขนใส่ปูนบังหน้า ยึดยาบ้า 10,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า
300,000,000 บาท
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง
ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1,
พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์
มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1, บช.ปส., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส.,
พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท. , ขกท.ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล
กระทรวงมหาดไทย, ภ.จว.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 2, ภ.จว.ลพบุรี โดย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี, พ.ต.อ.อาสาฬห์ ถมยา รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1 และ ว่าที่ ร.ต. อากาศ ปานแย้ม
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กระทรวงมหาดไทย
ตำรวจภูธรภาค
1 โดย โดยนายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
(ผู้แทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย)
ร.ต.อ. เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และ ร.ต. ทองปอนด์ ถาวรสถิตย์ เลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อน
การดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด
พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหาร
จากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล
จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี
และทำให้ทราบว่า นาย ว.(นามสมมุติ) อายุ 33 ปี และ นาย
ย.(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของไทย
จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาทั้งสอง
ต่อมาในวันที่
16 มี.ค.67 จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง ใช้รถบรรทุกปูนขนาดใหญ่
ยี่ห้อ HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า
แจ๊ส สีขาว ในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี
(ขาเข้า จ.สระบุรี) ม.6 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
จึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง เมื่อวันที่
17 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 08.45 น.
ดังนี้
1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50 กระสอบ รวมจำนวน
5,000 มัด ประมาณ 10,000,000 เม็ด
2.) รถบรรทุก HINO สีขาว จำนวน
1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)
3.) รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว จำนวน
1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง)
4.) อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ SIG SAUER
P320SP ขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนจำนวน
14 นัด
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสอง กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
และกล่าวหานาย ว. เพิ่มเติมว่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการซักถามขยายผลนาย ว. รับว่าได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 300,000 บาท เพื่อขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจากจังหวัดพะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดสระบุรี
และนาย ย. ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลาง หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น