ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้ม แข่งรถ คุก-ปรับ-ริบรถ ตำรวจปราบจริง กำราบ ซิ่งก่อกวนป่วนเมือง
ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้ม แข่งรถ คุก-ปรับ-ริบรถ ตำรวจปราบจริง กำราบ ซิ่งก่อกวนป่วนเมือง
แว้น ซิ่ง เศร้า! ผู้ช่วย
ผบ.ตร.เข้ม ตำรวจปราบจริง เด็ดขาด เด็กแว้น รถซิ่ง ป่วนเมือง สร้างความเดือดร้อน
สกัดเข้ม 3 ทาง สายออกทริปยกล้อต้องระวัง! พร้อมงัด 4 มาตรการ “ขับ-ซ้อน-เชียร์-ชักชวน-ผู้ปกครอง”
โดนแน่ รับโทษหนัก คุก ปรับ ริบรถ กำราบแข่งรถในทาง ซิ่งก่อกวนป่วนเมือง
วันที่ 3 มี.ค.67 เวลา 10.30 น.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ
พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนกวดขัน ปราบปราม
และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ
ประสานความร่วมมือทั้งงานป้องกันปราบปราม บูรณาการร่วมกับงานจราจรและสืบสวนสอบสวน
เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลให้กับสถานีตำรวจในการเฝ้าระวัง
“คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทาง ตร.ให้นโยบายรับมือกับการนัดหมายรวมกลุ่มของเด็กแว้น
แข่งรถในทาง ผ่านทางโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
พร้อมดำเนินการตามแนวทางมาตรการเชิงรุก 4 ข้อ” พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าว
พล.ต.ท.สำราญฯ ผู้ช่วย ผบ.ตร.
กล่าวอีกว่า แนวทางป้องกันพื้นที่ “ต้นทาง” ที่มีการรวมตัวกัน
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประชาสัมพันธ์พูดคุยเจรจาทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่าง
ๆ ทำความเข้าใจ หรือ MOU ข้อตกลงการจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสม
และไม่เป็นการรบกวนผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางนั้น พื้นที่ “กลางทาง”
ตลอดเส้นทางถึงจุดหมาย ให้บูรณาการกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด กวดขันวินัยจราจร
บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” และ
พื้นที่ “ปลายทาง” ให้เฝ้าระวังพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่น
ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว
แล้วประชาสัมพันธ์ให้การจัดกิจกรรมนั้น ไม่ไปรบกวน
หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า ได้กำหนด 4
มาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง ดังนี้
1.มาตรการก่อนเกิดเหตุ
-สืบสวนหาข่าวจากทุกช่องทาง เช่น
เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ โซเชียลมีเดีย ประชาชนในพื้นที่
-จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว
ตั้งด่านกวดขันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตรา แหล่งมั่วสุม จุดนัดหมาย
สถานศึกษา ร้านแต่งรถ ฯลฯ
2. มาตรการขณะเกิดเหตุ
- วางแผนดำเนินการปิดล้อมจับกุม
-วางแผนบูรณาการกับทุกฝ่าย
และหน่วยงานสนับสนุนในพื้นที่
3.มาตรการสอบสวนขยายผล
- หากผู้กระทำผิดเป็นประชาชน
ผู้ปกครองมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ
- แอดมินเพจผู้ชักชวน คนซ้อน
กองเชียร์ มีความผิดฐานสนับสนุน
4.มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
-
บันทึกข้อมูลกลุ่มเสี่ยงต่อการแข่งรถในทางในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไว้ในระบบ CRIME อย่างเป็นระบบ
- บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดอบรมความประพฤติเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำผิดและกลุ่มเสี่ยง
ให้มีจิตสาธารณะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และพร้อมกลับคืนสู่สังคม
พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวด้วยว่า
ได้นำข้อมูลการปราบปรามการแข่งรถในทาง หรือแว้น ในพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์
จว.สมุทรปราการ ที่วางแผน ปิดล้อมจับกุม
และขยายผลจนสามารถดำเนินคดีกับเด็กแว้นได้ทั้งหมด 32 ราย ยึดรถ 49 คัน ศาลพิพากษาจำคุก
3 เดือน ปรับรายละ 10,000 บาท ริบรถจักรยานยนต์ของกลางทุกคัน
สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนได้ขยายผลถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหมด
โดยศาลสั่งลงโทษผู้ปกครอง ปรับรายละ 10,000 บาท ในข้อหา “ส่งเสริม หรือ ยินยอม
ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด”
ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พ.ศ.2546 และกรณีท้องที่ สภ.เมืองพัทลุง
ดำเนินคดีแอดมินเพจที่โพสต์ชักชวน ขยายผลไปถึงผู้ที่โพสต์ ชักชวน คนซ้อนท้าย
กองเชียร์ มีความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุน ต้องถูกระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี
ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และในกรณีของ เพจ สจ.บางซ่อน
ที่มีการโพสเฟซบุ๊คชวนกันไปออกทริป ซึ่งมีการนัดรวมตัวกันในหลายพื้นที่
หลายจังหวัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้าไปประชาสัมพันธ์ไม่ให้ขับขี่รถกีดขวางการจราจรกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน
หรือยกล้อ ขับรถประมาทหวาดเสียวเช่นเดียวกับกลุ่มที่รวมตัวกันเป็นลักษณะทริปสายบุญ
ทริปน้ำไม่อาบ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ต้นทางจนถึงปลายทาง
จะเฝ้าติดตามถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย ก็จะมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดทุกข้อหา
ซึ่งศาลเคยมีคำพิพากษายึดรถมาแล้ว สำหรับกลุ่มที่ไปยกล้อบนทางขึ้นภูทับเบิก
เป็นต้น
“คณะทำงานฯ จะขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาเด็กแว้นอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยกับประชาชนอย่างแท้จริง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดระเบียบสังคม พบเห็นเด็กแว้นหรือการกระทำผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง แจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1599 หรือ 191” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น